การเมือง ของ เชียรช่วง กัลยาณมิตร

ดร.เชียรช่วง ได้เข้าไปร่วมงานเคยร่วมงานกับนายอานันท์ ปันยารชุน สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร และเคยร่วมงานกับพรรคพลังธรรมในปี พ.ศ. 2535 เป็นระยะเวลาสั้น ๆ โดยไม่มีบทบาทอะไรมาก และในการเลือกตั้งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2539 ดร.เชียรช่วง ได้เข้าไปทำงานด้านประชาสัมพันธ์ให้กับทางพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งในครั้งนั้นแข่งขันกับทางพรรคความหวังใหม่ โดยเป็นผู้คิดประโยคที่ว่า "ไม่เลือกเรา เขามาแน่"

ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดร.เชียรช่วง เป็นผู้หนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยเป็นผู้ต่อต้านกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ร่วมกับ นายอัมรินทร์ คอมันตร์ และ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์

หลังการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2549 ดร.เชียรช่วงถูกกล่าวหาว่าถูกรับจ้างให้ทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ให้กับคณะมนตรีความมั่นคง (คมช.) ด้วยจำนวนเงินที่สูงถึง 12 ล้านบาท ด้วยความที่เป็นญาติผู้น้องของ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

การเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาราช

ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ดร.เชียรช่วง กัลยาณมิตร ได้รับการเลือกจากสมาชิกพรรคประชาราชให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคแทนที่นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ที่ลาออกไป แต่ในวันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 20 ตุลาคม ที่มีข่าวว่าพรรคประชาราช พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา จะรวมกันนั้น นายเสนาะได้กล่าวที่บ้านของนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ซอยราชครูว่า ดร.เชียรช่วง มีตำแหน่งอยู่ในหลายบริษัท หลายที่ ที่อาจใช้การเมืองเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองได้ จึงไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเลขาธิการพรรค และได้ขอลาออกไป